รักษาสิวง่าย ๆ ด้วยตัวเอง

ประวัติการเป็นสิว
     เป็นสิวตั้งแต่อายุ 14 เรื่อยมา ช่วงแรก ๆ ยังไม่ไปหาหมอ เพราะคิดว่าเป็นแค่สิวเดี๋ยวก็หาย หลังจากนั้นก็เป็นเซ็บเดิร์ม ตามมาติด ๆ ในปีถัดมา ทำให้ต้องไปหาหมอโรคผิวหนัง ที่แรกที่ไปคือ รทว.คลินิก ที่นี่คุณหมอดี ให้ยาสเตียรอยด์มาทาแก้เซ็บเดิร์ม 3-7 วัน แล้วให้หยุด ส่วนสิวก็ให้ทายาแก้สิวพวก BP5% 7% แล้วแต่ ที่นี่จะดีอย่างคือไม่ให้ใช้โฟมล้างหน้า ให้ใช้น้ำเปล่า อะไรที่มันไม่จะเป็นก็ไม่ให้ ประหยัดให้คนไข้ แล้วก็มีพวกยาทาน ช่วงแรก ๆ กินประมาณ 1 เดือนก็สิวเริ่มหาย หลังจากสิวหายก็หยุดกิน ให้ทาแต่ยากันไว้ หลัง ๆ ก็ไม่ต้องหาหมอละ ซื้อยามาทาเองก็ได้ หามาประมาณ 3-4 ปี ก็เลิกหาเพราะเปลืองตังค์ แต่ช่วงที่หาก็สิวขึ้นบ้าง 3 เดือนขึ้นที ขึ้นทีก็กินยาที กินมาตลอด หาทีก็กินประมาณอาทิตย์นึง นานวันเข้าสิวเริ่มดื้อยา เลยหาซื้อยากินเอง ตามร้านขายยาทั้งยาแก้อักเสบ และแอคโนติน ยาแก้อักเสบชนิดรุนแรง ทานแล้วตัวจะแห้ง ปากแห้ง แห้งจนปากแตกเลือดออกเลย หลังจากนั้นก็ลองไปหาที่คลินิกน้องพร. อันนี้รู้สึกแย่มากเพราะเหมือนโดนหลอกวิธีการของเค้าง่าย ๆ
1. ดูหน้า
2. ส่งเข้าห้องแลป เป๊ะกระจกหาตัวไร
3. ส่องกล้อง อุ๊ยตาย ว๊ายกรี๊ดดดดด มีตัวไรด้วยค่ะคุณน้อง คุณน้องแพ้ตัวไรนะค่ะ ยังงี้ต้อง…
ให้ยามากินเป็นกำมือ รวมถึงแอคโนตินด้วย (มารู้ทีหลังว่าใคร ๆ ก็มีตัวไรอยู่ที่หน้าทั้งนั้นแหละ)
4. ถ้าอยากสิวหายเร็วหน่อยก็ ฉีด ฉีดๆๆๆๆๆ
หาทีก็หมดพันกว่า หลัง ๆ สองพันกว่า แถมสิวไม่หายด้วย หลัง ๆ เลยเลิกหา
หลังจากนั้นก็หาคุณนิติ. อันนี้หมอดี พนักงานก็ดี แต่ก็ยังไม่หาย
เลยไปหาคุณวุฒิ. อันนี้หมอแย่ มีแต่หมอกระเทย พูดจาก็ห้วน ๆ สเตปของหมอง่ายมาก
1. ดูหน้า
2. เอายาไปทา ให้ยาแก้อักเสบพร้อมแอคโนติน ที่เค้าให้ยาตัวนี้เพราะมันจะทำให้สิวหายเร็วสุด เห็นผลเร็วสุด และอันตรายกับร่างกายมากที่สุด แต่ใครจะสนใจละ ก็เราไปหาเค้าเองนิ อยากสิวหายก็ต้องแลกกับตับ ไต กระเพาะพัง

     หลังจากนั้นก็ไม่หาละ ตอนนั้นก็อายุประมาณ 29 ได้ครีมมาตัวนึง กลับบ้านที่ต่างจังหวัดมีคนข้างบ้านแนะนำชื่อครีมสมุนไพรสดกฤษ..อ้างว่าทำมาจากขมิ้น ใช้คู่กับครีมน้ำนม ใช้ตอนแรก สิวหายเกลี้ยง หน้าใสมากกกกก ขาวมากกกกกก หน้าดีเวอร์จนเพื่อนฝากซื้อเยอะมากกก เอามาขาย ขายดีมาก ไอ้เราก็นึกว่าของเค้าดีจริง ที่ไหนได้ พอใช้ไปได้ประมาณ 1 ปี สิวเริ่มกลัีบมา แต่ไม่เยอะมาก ขึ้นทีเม็ดใหญ่มากกก มีหลาย ๆ หัวในเม็ดเดียว แล้วเป็นนาน หลังจากนั้นก็เลิกทา พอดีมีน้องคนนึงแนะนำให้ใช้ของแอมเวย์ เราก็เลยลองแรก ๆ ก็ใช้ได้ไม่มีปัญหาอะไร หลังจากนั้นน้องเค้าก็เริ่มแนะนำให้ทานอาหารเสริมเริ่มจากโปรตีน อันนี้ทานได้ ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ตัวที่สองนิแหละ ที่ทำให้ชีวิตเปลี่ยน ดับเบิ้ลเอ็กซ์ และผลไม้รวม สิวขึ้นเต็มหน้า ขึ้นเยอะมากกกกกก ขึ้นไม่หยุด ขนาดหยุดทานแล้วก็ไม่หยุดขึ้น กลุ้มใจมากกกก ใครเห็นก็ทัก อายมาก จากหน้าใส ๆ เป็นสิวนิดหน่อย ขึ้นมาเต็มหน้าเลย เม็ดใหญ่ ๆ หัวช้างทั้งนั้นเลย เลยรู้ละว่าร่างกายเราผิดปกติแน่นอน เพราะถ้ากินวิตามินที่มันบำรุงเราจากภายใน เราต้องดีขึ้นสิ แต่นี่กลับแย่ลง ลองสักเกตุตัวเองดูคือถ่ายไม่ค่อยออก ถ่ายเป็นเม็ด กระเพาะติดเชื้อง่าย เลยเริ่มหาข้อมูลใน google เริ่มศึกษาด้วยตัวเองว่าคนอื่นมีแนวทางอย่างไรบ้าง เริ่มจาก เอาพารามาพอกหน้า อันนี้พอกได้ ทำให้หน้าแห้ง ไม่แพ้ แต่ไม่หาย
อันที่สองให้ซื้อดีเกลือฝรั่งมาทาน อันนี้หายากมากกก กรุงเทพหาไม่่ค่อยมี ต่างจังหวัดจะหาง่ายกว่ามาก อันนี้ฝากเพื่อนซื้อ ซื้อมากินครึ่งโล กินไปได้ไม่กี่ครั้งก็ต้องหยุดเพราะยังไม่หาย ที่เค้าว่ากินแล้วจะจู๊ด ๆ ก็ไม่ค่อยนะ
แล้วก็เค้าให้ลองทานขนมปังโฮลวีทแทน เค้าบอกว่าจะดีกว่าข้าวขาว แต่ก็ไม่หาย
ต่อมาก็เลยหาข้อมูลใหม่ เจอการรักษาแบบองค์รวมของคุณบีม อันนี้ช่วยได้เยอะเลย เริ่มจากส่งรูปให้เค้าดูก่อน


 

พอคุณบีมเห็นรูปก็ให้กรอบแบบสอบถามว่าในแต่ละวันทานอะไรบ้าง และก็ให้ปรับเปลี่ยนการทานใหม่หมดเลย โดยเริ่มจาก
เช้า…ให้ทานซีเรียล กะนมถั่วเหลือง หรือโอวัลติน 5 แกรนด์ก็ได้
เที่ยง…ผัดผักรวม, สุกี้น้ำไม่ใ่ส่ชูรส, แกงจืดผักรวม(คะน้า,ผักบุ้ง,บล็อคลอรี่, ขึ้นไฉ่, ผักกาด,)ผักอะไรก็ได้ที่มีฤทธิ์เย็น ช่วงบ่าย ๆ ประมาณบา่ย 3-4 ผลไม้ก็มี แตงโม สัปรด แอปเปิ้ล ปั่นรวมกันไม่ใส่น้ำหวาน
หรือจะซื้อสดมาทานก็ได้ ทานสลับกันก็ได้วันนี้ แตงโม พรุ่งนี้สัปรด อีกวันแอบเปิ้ล แน่นอน ผลไม้ก็ต้องเป็นผลไม้ฤทธิ์เย็นด้วย ถ้าอยากรู้ว่าอะไรฤทธิ์เย็นต้องหาใน google ก็จะรู้ว่ามีอะไรบ้าง
เย็น…แกงจืดผักรวม(คะน้า,ผักบุ้ง,บล็อคลอรี่, ขึ้นไฉ่, ผักกาด,)
มาถึงตรงนี้ก็เข้าใจละว่า คนเป็นสิว ข้างในมันจะร้อน เลยต้องเอาผัก ผลไม้ฤทธิ์เย็นเข้าปลอบ เผื่อให้ข้างในหายร้อนแล้วสิวจะหาย แต่ก่อนสิวจะหายส่วนใหญ่จะเกิดปฏิกิริยาร่างกายขับพิษออกมา

 จะสังเกตุเห็นได้ว่าสิวจะขึ้นบริเวณคาง ซะเป็นส่วนใหญ่ แล้วก็ตรงแก้ม หน้าผาก ซึ่งนั่นก็หมายถึง กระเพาะที่ไม่ดี ระบบการย่อยอาหารไม่ดี เลยนึกย้อนไปว่าสมัยก่อนเรากินอะไรบ้าง ถึงทำให้เรากระเพาะไม่ดี ก็ได้ถึงบ้างอ้อ
1. ที่บ้านขายข้าวมันไก่ กินทุกวัน น้ำมันในข้าวมันไก่จะไปเกาะผนังลำไส้ เวลาทานกับน้ำเย็น (น้ำเย็นหากเลี่ยงได้ก็ควรเลี่ยงเพราะมันจะทำให้ภูมิคุ้มกันในร่างกายลดลง) ดื่มน้ำธรรมดาแทน
2. ขายข้าวแล้วก็ต้องขายน้ำอัดลมด้วย ก็กินมันคุ่กันเลย น้ำเปล่าจะดื่มน้อยมากๆ
3. เวลาทานข้าวจะทานน้ำเยอะ ๆ เพราะจะชดเชยที่ทั้งวันไม่ค่อยได้กินน้ำ ทำให้กรดในกระเพาะมันเจือจาง ย่อยอาหารไม่ค่อยดี มารู้ทีหลังว่าก่อนทานอาหารครึ่งชั่วโมง ขณะทานข้าว หรือหลังทานแล้ว ไม่ควรดื่มน้ำเกิน ครึ่งแก้ว เพราะจะทำให้ระบบการย่อยอาหารไม่ดี
4. ทานยาแก้สิวมาตลอด ทำให้มันไปทำลายตับ ไต
5. ไม่ค่อยทานผลไม้ ทำให้ไม่มีกากใยที่จะไปล้างเมือกในลำไส้ และขาดวิตามินที่จะเข้าไปเสริมภูมิคุ้มกันในร่างกายเรา
6. ทานขนมขบเคี้ยวทุกวัน อันนี้เข้าใจ แต่ไม่มีประโยชน์ มีทั้งสารกันบูด น้ำตาล ผงชูรส
เออ พูดถึงน้ำตาลถ้าต้องการลดสิวให้ได้จิงจัง ต้องหยุดน้ำตาลไปเลย ทานให้น้อยที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะร่ายกายเราได้รับน้ำตาลเพียงพออยู่แล้วในแต่ละวันจากข้าว หรือผลไม้ก็เพียงพอแล้ว
7. นอนดึก ก่อนนอนก็กินข้าว ขนม ของหวาน อันนี้ไม่ควร เพราะร่างกายเราต้องพักผ่อนตั้งแต่ 4 ทุ่ม เต็มที่ไม่ควรเกิน 5 ทุ่ม  
ช่วงเวลากลางคืน 3 ทุ่ม – 5 ทุ่ม : เป็นระยะเวลาที่ร่างกายจะกำจัดสารพิษต่าง ๆ โดยระบบต่อต้านเชื้อโรคในร่างกาย ( ระบบหมุนเวียนของน้ำเหลืองในร่างกาย) ช่วงเวลานี้ควรจะต้องถูกใช้ไปในการพักผ่อนหรือผ่อนคลายด้วยการฟังดนตรี ถ้าหากช่วงเวลานี้แม่บ้านยังคงวุ่นอยู่กับงานบ้านเช่นล้างจานหรือดูและเด็ก ให้ทำการบ้าน เป็นต้น สิ่งเหล่านี้จะเป็นผลลบต่อร่างกาย
ช่วงเวลากลางคืน 5 ทุ่ม – ตี 1 : กระบวนการกำจัดสารพิษในตับ และแน่นอนควรจะต้องอยู่ในช่วงการนอนหลับสนิท ในช่วงเช้าระหว่างเวลาตี 1 ถึง ตี 3 นั้น กระบวนการกำจัดสารพิษในน้ำดีก็ควรจะเป็นช่วงแห่งการนอนหลับสนิทเช่นกัน
ช่วงเวลาตี 1 – ตี 3 : การกำจัดสารพิษในปอด เพราะฉนั้นอาจจะมีอาการไออย่างรุนแรงสำหรับผู้ที่มีปัญหาการไอในช่วงเวลาดัง กล่าว ตอนนี้กระบวนการกำจัดสารพิษจะเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจแล้ว และก็ไม่จำเป็นที่คุณจะใช้ยาแก้ไอเพื่อที่จะได้ไม่ไปขัดขวางขั้นตอนการกำจัด สารพิษในร่างกาย
ช่วงเช้า ตี 5 – 7 โมงเช้า : การกำจัดสารพิษในปลายลำไส้ใหญ่ ก็ถึงเวลาที่จะต้องทำให้พุงและลำไส้ของคุณว่างลง คือตื่นมาถ่ายนั้นเอง
หลังจากปฏิบัติตามที่ว่ามา ระบบขับถ่ายก็เริ่มดีขึ้นตามลำดับ ตื่นมาถ่ายก่อน 7 โมงเช้าทุกวัน ช่วงแรกจะถ่ายเหม็นมากกก เพราะของเสียที่คั่งค้างเริ่มทยอยออกมา

ผลจากการกินยาแก้อักเสบทำให้ กระเพาะมีแต่เชื้อยีสต์ เนื่องจากกินยาแก้อักเสบสิวเยอะเกิน คือ ยาแก้อักเสบพวกนี้จะเข้าไปทำลายเชื้อแบคทีเรียที่อยู่ในร่างกายเรา เลยทำให้สิวเราหาย แต่…ผลข้างเคียงคือ แบคทีเรียที่ดีก็จะถูกทำลายไปด้วย ทำให้ร่างกายขาดแบคทีเรียที่ดีมาต่อสู้กับเชื้อโรค ไอ้เจ้าเชื้อยีสต์เลยกำเริบ สืบสาน รุกรานอาณาจักรเรา ทำให้เราเสียกรุงโดยไม่รู้ตัว 555+ เลยทำให้สิวขึ้นไม่หยุดวิธีแก้คือให้ทานโปรไบโอติก หรือแบคทีเรียที่ดี นั่นคือ ยาคูลย์ แต่ด้วยมันมีน้ำตาลเยอะ หากจะดื่มวันละ 2 ขวด ให้ดื่มน้ำตามเยอะ ๆ

เมื่อเราทานผัก ผลไม้ได้เยอะพอแล้ว ให้เราหาวิตามินมาทานเสริมด้วยจะทำให้ร่างกายสมดุลยิ่งขึ้น
เขียนไว้ให้แล้ว ลองอ่านดูคับ
http://chinachinychin.blogspot.com/2013/02/vitamin.html
    

     มาถึงตรงนี้สิ่งที่อยากจะบอกคือ
1. อย่าทานยาแก้สิวเป็นเวลานาน ๆ ไม่ทานเลยได้ยิ่งดีเพราะมันจะไปทำลายกระเพาะ ตับ ไต
2. อย่าเที่ยวไปซื้อครีมตามตลาดนัด ครีมหน้าขาว ไม่มีอย. หรือบางทีที่มีอย.ก็ไม่รู้ซื้อมาหรือเปล่า เพราะพวกนี้จะมีสารปรอท และสเตอรอยด์ แรก ๆ ใช้แล้วหน้าจะดี แต่หลัง ๆ หน้าจะพัง เพราะสารปรอทจะไปทำลายเม็ดสีผิว นานวันเข้าจะหน้าเป็นด่าง ๆ ขาวเป็นดวง ๆ น่าเกลียด ส่วนสเตอรอยด์จะเข้าไปทำลายเนื้อเยื้อ และคลอลาเจนใต้ผิว ทำให้รูขุมขนกว้าง เวลาเป็นสิวหน้าจะเป็นหลุมลึก เหมือนแผลที่ถูกฉีกออกจากกัน มันจะเป็นหลุมวงกว้างถึงจะไปยิงเลเซอร์ก็จะไม่ช่วยอะไร
     แนะนำให้ซื้อครีมในห้างตามเคาร์เตอร์แบร์น watson, boots, มีอย.แน่นอน แพงหน่อย แต่ปลอดภัยแน่นอน
3. ควรทานผัก ผลไม้แต่เด็ก มีคุณหมอท่านนึงเคยบอกไว้ว่าหากต้องการให้ร่างกายแข็งแรง ห่างไกลโรค ควรทานผักวันละ 5 กำมือ (อันนี้ฟังดูอาจเยอะไป) แต่ถ้าทำไม่ได้ ในหนึ่งวันควรทานผักบ้างสักมื้อก็ยังดี และผลไม้อย่างน้อย ๆ แตงโม สัปรด แอปเปิ้ล กล้วย ฯลฯ ควรซื้อทานบ้าง ชิ้นละ 10 บาทเอง  บ้านเราเป็นเมืองที่ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว ผลไม้มีทั้งปี โชคดีกว่าบางประเทศอีก
4. ดื่มน้ำสะอาด ๆ ให้มาก ๆ และควรดื่มตอนท้องว่าง ระหว่างวันให้ครบ 8 แก้ว ตื่นเช้ามาก็ซักไป 2 แก้ว ให้มันไปช่วยล้างพิษในร่างกาย หลังจากนั้นระหว่างวันก็จิบ ๆ เรื่อย ๆ เวลาทานข้าวก็พยายามอย่าดื่มน้ำให้เยอะเกิน น้ำอัดลม เลี่ยงได้ก็ดี ไม่เห็นมีประโยชน์ ทานน้ำผลไม้ยังดีกว่าอีก อร่อยเหมือนกัน
5. ฝึกหายใจ ควรหายใจเข้าลึก ๆ ให้สุดแบบเหมือนจะขาดใจ แล้วก็กลั้นไว้ แล้วก็ค่อย ๆ ผ่อนออกทางปากยาว ๆ ให้หมด จะเป็นการขับพิษทางปอดอีกวิธี วิธีนี้จะทำให้สมองโล่ง และอารมณ์ดีขึ้นด้วย
6. พักผ่อนให้เพียงพอ 5ทุ่ม-7โมงเช้า
     หวังว่ามันคงจะมีประโยชน์บ้างสำหรับคนที่รักสุขภาพและอยากกลับมามีสุขภาพผิวที่ดีอีกครั้ง
ตอนนี้ตัวฉินเอง (ชื่อฉินจ๊ะ) ก็สุขภาพดีขึ้นเยอะ และอยากให้ทุกคนมีสุขภาพดีแบบไม่ต้องหาหมอโดยทั่วหน้าจร้าาาา

   


11 thoughts on “รักษาสิวง่าย ๆ ด้วยตัวเอง

  1. ตอนนี้หนู อายุ 21 สิวเป็นเพหมือนพี่เลยค่ะ T^T ทำยังไงก็ไม่หาย สิวส่วนมากจะขึ้นรอบค้าง ตามสันกรามข้างแก้ม แต่หน้าผาก จมูกไม่มีค่ะ สิวจะลักษณะตุ่มใหญ่มีหลายหัวรวมกันอยู่ เป็นมาตั้งแต่ 15

    ทานผักเยอะมากค่ะ แต่ว่าไม่ถ่าย ไม่รู้จะทำอย่างไรดีเหมือนกัน T^T

    ถูกใจ

  2. ทานซิงค์(สังกะสี) สิค่ะ จะช่วยปรับฮอโมนในร่างกาย มีขายที่ร้านขายยาค่ะ แล้วก็ใช้สมูทอีล้างหน้าค่ะ เพราะไม่มีฟอง เพราะฟองเป็นประจุบวกทำลายผิวหน้าเรา

    ถูกใจ

  3. หน้าเราก้ไม่ได้เป็นอะไรสิวเสี้ยนนิดหน่อย เข้ามาอ่านดูเล่นๆ อเมซิ่งจริงๆ OMG กินของมีประโยชน์มันดีอย่างงี้นี้เอง ได้เกล็ดความรู้เยอะมาก ขอบคุณสำหรับประสบการณ์ดีๆนะคะ

    ถูกใจ

ใส่ความเห็น